บทความ

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

KENE เซรั่มวิตามินซีที่ทำให้ผิวหน้าเปลี่ยนไป (มันดีมากก)

สวัสดีค่ะทุกคนสำหรับวันนี้เราก็มีสกินแคร์ดีๆที่เราใช้มาได้สักระยะนึง แล้วชอบและรู้สึกว่ามันเห็นผลมากๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆได้ดูกัน  นั่นคือ  KENE  Brightage C line & radiance corrector

ก่อนอื่นขอเล่าถึงปัญหาผิวต่างๆของเราก่อน นะคะ มีรอยสิวเยอะมากก เนื่องจากเมื่อก่อนที่เป็นสิวหนักๆแล้วชอบแกะชอบเกา   สีผิวไม่สม่ำเสมอ แก้มจะขาวๆหน่อยแต่รอบปากนี่เป็นรอยคล้ำชัดเจนเลย ไม่รู้เพราะอะไร TT   รูขุมขนกว้าง โดยเฉพาะตรงแก้มและจมูก  เริ่มมีริ้วรอย พออายุ25 แล้วริ้วรอยเล็กๆเริ่มมาเยือนเวลาหัวเราะเริ่มเห็นเป็นเส้นจางๆแล้วค่ะ(รูปแอบสะพรึงเล็กน้อยขออภัยค่ะ55)


ขอเล่าเกี่ยวกับแบรนด์ที่ได้ลองใหม่นี้ให้ทุกคนได้ฟังก่อนนะคะ
แบรนด์  KENE(อ่านว่าคีน) เป็นแบรนด์แนวเวชสำอางค์ concept เขาค่อนข้างจะชัดเจนว่าเน้นการดูแลปัญหาผิวอย่างจริงจัง
คือไม่ใช่แค่ดูแลธรรมดาแต่เข้าไปแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุด   เหมาะกับคนที่อยากเห็นผลชัดเจน โดยเน้นการใช้ส่วนผสมที่ผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าช่วยในปัญหานั้นได้จริงๆ  ประมาณว่าเลือกใช้ส่วนผสมที่ทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์ด้านผิวหนังพิสูจน์กันมาแล้วว่ามีประสิทธิภาพในด้านนั้นจริงๆ ไม่ได้เลือกส่วนผสมมาเคลมมั่วๆ แล้วทำให้ดูน่าใช้มั่วๆ ร่วมกับการเลือกใช้เทคโนโลยีและส่วนผสมนวัตกรรมตัวใหม่ๆที่ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้น จึงเป็นที่มาของ slogan ของแบรนด์ที่ว่า
Innovative skin solution คือ เป็นมากกว่า skin care แต่เป็น skin solution โดยใช้ส่วนผสมทางวิทยาศาสตร์ที่มีความทันสมัยหรือ innovative
โดยสำหรับจุดเด่นหลักของ KENE  Brightage C line & radiance corrector เค้ามีคุณสมบัติหลักๆคือช่วยลดเลือนริ้วรอยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว และ จัดการความหมองคล้ำและจุดด่างดำต่างๆ ไปพร้อมๆกัน (คนมีรอยสิวเยอะแบบเรานี่ปลื้มเลย) โดย concept ผลิตภัณฑ์เริ่มมาจากการที่ VitaminC  สามารถทำงานได้ทั้งเป็น Whitening และช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิววเรียบเนียนเต่งตึง ทางแบรนด์จึงหยิบเลือกตัว VitaminC มาเป็นส่วนผสมหลัก และเสริมประสิทธิภาพด้าน whitening และ กระตุ้นคอลลาเจนด้วยส่วนผสมตัวอื่นๆอีกหลายตัว


 ส่วนที่ว่ามันจะต่างจากวิตามินซีเซรั่มทั่วไปยังไงมาดูกันเลย

มีส่วนผสม 2 ตัวหลักๆใน KENE BrightageC  คือ
1.Double VitaminC  คือเป็นการใช้อนุพันธ์วิตามินซี 2 ชนิดมาทำงานคู่กัน โดยเลือกใช้ อนุพันธ์วิตามินซีรูปแบบใหม่ที่ละลายในไขมันได้แก่  ascorbyl tetraisopalmitate โดยใส่มาที่ 10% ร่วมกับ อนุพันธ์ที่ละลายในน้ำคือ 2% 3-O ethyl ascorbic acid การใช้สองอนุพันธ์ร่วมกันจะทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเพราะออกฤทธิ์ทั้งในส่วนที่ละลายในน้ำ และ ละลายในไขมัน โดยอนุพันธ์ทั้งสองชนิดดีกว่าอนุพันธ์แบบเก่าที่มักได้ผลน้อยกว่า และไม่ระคายเคืองเหมือนวิตามินซีในรูปปกติที่เป็นกรดและระคายเคือง
เรียกได้ว่าอนุพันธ์ใหม่นี้ทั้งประสิทธิภาพดี และไม่ระคายเคือง โดยทางแบรนด์ใส่มารวม 12% ซึ่งถือว่าสูงมาก โดยผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากวิตามินซีคือ การลดเลือนจุดด่างดำ การกระตุ้นคอลลาเจน ลดความเสียหายของผิวที่เกิดจากแดด พูดง่ายๆคือ วิตามินซีเหมือนช่วยทำให้ทั้งใสทั้งตึง และยังช่วยลดการอักเสบและช่วยในการสมานแผลให้ดียิ่งขึ้น


2.Double peptide
Peptide มันก็เหมือนโปรตีนสายสั้นๆที่ทำให้สื่อสารระหว่างเซลล์ โดยตัว Brightage C ได้ร่วม peptide 2 ชนิดที่ทำหน้าที่ในการกระตุ้นให้เกิดการสร้าง collagen ได้แก่ 3% Matrixyl3000 และ 2% tetrapeptide-21 ทั้งสองตัวทำงานควบคู่กัน โดยทำงานคล้ายๆกันคือเหมือนเข้าไปในเซลล์แล้วบอกให้เซลล์เกิดการสร้าง collagen ที่มากขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียน ละเอียดขึ้น ริ้วรอยดูลดลง ผิวดูตึง ยืดหยุ่นขึ้น โดยคุณสมบัติการกระตุ้นคอลลาเจนนี้ตัว peptide ก็ทำงานควบคู่กับ double vitamin C ช่วยกันกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ประสิทธิภาพในการกระตุ้นคอลลาเจนสูงขึ้น

นอกจากส่วนผสม 2 ตัวข้างต้น ยังมีส่วนผสมอีกหลายตัวที่ทางแบรนด์ใส่เข้ามาเพื่อเสริมคุณสมบัติในเรื่องความกระจ่างใส และความเรียบเนียนเต่งตึงได้แก่

Tyrostat ซึ่งคือสารสกัดจากพืชที่โตในทุ่งหญ้าบริเวณประเทศแคนาดาตอนเหนือมีประสิทธิภาพสูงในการยับยั้งเอนไซม์tyrosinase (ยับยั้งการสร้างเม็ดสี) ลดจุดด่างดำและความหมองคล้ำเพิ่มความระจ่างใส


นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอีกหลายตัวผ่านหลายกลไกที่ช่วยฟื้นฟูให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้แก่
anti-oxidant (Green tea, Grape seed , Black berry , Vitamin E , Resveratrol)
ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระสาเหตุของความชราแห่งวัย และช่วยปกป้องผิวให้ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ โดยยับยั้งการเสื่อมสลายของคอลลาเจน และป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดจากรังสี UV
Anti-glycation
โดยปกติน้ำตาลในผิวจะไปจับตัวกับพวกคอลลาเจน ทำให้เปราะบางและเสียโครงสร้าง ทำให้ผิวดูไม่เต่งตึง ส่วนผสมตัวนี้จะไปช่วยยับยั้งกลไกนี้ตัวให้ผิวดูยืดหยุ่นอ่อนเยาว์
Barrier repair complex
คือเทคโนโลยีพิเศษที่ผสานองค์ประกอบ lipid barrier แบบเดียวกับที่พบในผิวด้วย ceramide,cholesterol,fatty acid ทำหน้าที่เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวทางธรรมชาติ เพิ่มความแข็งแรง และเพิ่มความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้นได้จากภายใน
Nano hyaluronic acid
สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวเองถึง1000เท่า ให้ความชุ่มชื้นผิวดูอิ่มน้ำ
Anti-irritant
ช่วยลดความแดง และการอักเสบของผิว



เนื้อสัมผัสค่อนข้างบางเบาซึมง่ายมาในรูปแบบของหลอดบีบปริมาณ 30 กรัม ใช้ได้นานเลยค่ะ



มาดูผลลัพธ์หลังจากที่เราได้ใช้เซรัมตัวนี้บำรุงหน้าตัวเดียวทาตอนเช้าและก่อนนอนมา 2 สัปดาห์กว่าๆกันค่ะ (กล้องที่ถ่ายเป็น sony a5100 ความสว่างปรับที่ 0 ทั้งก่อนและหลังใช้ กับไฟ soft box 1 ตัว ปริมาณไฟเท่ากันค่ะ)


ภาพนี้ตอนก่อนใช้เราแอบมีสิวอักเสบขึ้นที่คาง พอสิวหายเหลือแต่รอยเราก็ทาแต่ตัวนี้สังเกตว่ารอยสิวจางเร็วกว่ารอยที่ปล่อยทิ้งไว้นานแล้วค่อยมาทาทีหลังค่ะ


ภาพหน้าตรงนี่เห็นชัดเลยว่าหน้าดูเนียนใสผิวดูสุขภาพดีขึ้น ดูไม่โทรมทั้งๆที่เราก็นอนประมาณเที่ยงคืนเป็นปกติค่ะ และช่วงนี้เพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานหลายคนเริ่มทักว่าไปทำไรมาหน้าใสขึ้น  ดีใจ55


ฝั่งนี้โดยรวมก็ดูใสขึ้นรูขุมขนดูเล็กลงผิวละเอียดขึ้นแต่แอบมีสิวอักเสบขึ้นเล็กน้อยเพราะรอบเดือน  รอยแดงลดลง และอยากให้ลองสังเกตตรงหนังตาเราด้วยค่ะบอกแล้วเราทาทั้งหน้าจริงๆเวลาเหลือเนื้อเซรัมติดมือนิดหน่อยก็เอาไปแปะๆที่เปลือกตาด้วยเสียดาย555 เพราะเค้าบอกว่าไม่มีน้ำหอม พาราเบน แอลกอฮอล์อ่า พอทาๆแปะๆวันแรกไม่แพ้เราก็ทามาเรื่อยๆผลลัพธ์ คือเปลือกตาดูเต่งตึงเลย ดีใจอีกแล้วฮ่าๆ

สรุปตามความรู้สึกที่ได้ใช้มา
สำหรับ KENE  Brightage C line & radiance corrector ก็เป็นเซรัมวิตามินซีเข้มข้นที่ช่วยให้หน้าดูกระจ่างใสเรียบเนียนขึ้น หน้าดูอิ่มๆแน่นๆ เวลาเรายิ้ม หัวเราะ ริ้วรอยเล็กๆไม่ค่อยมากเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ รู้สึกว่าหน้ามีความยืดหยุ่นดีอ่ะบอกไม่ถูก รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นลูกรักไปแล้ว55  และที่สำคัญเรื่องรอยสิวใหม่ๆใช้ตัวนี้ตั้งแต่เนิ่นๆรอยหายเร็วมากค่ะ
                ความแตกต่างหลักๆที่แตกต่างจากวิตามินซีเซรั่มทั่วๆไปคือตัวนี้ใช้อนุพันธ์วิตามินซีรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงละลายทั้งในน้ำและไขมัน และมีตัวเสริมคือมีเปปไทด์เข้มข้นที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเสริมตัววิตามินซีอีกทีในด้านการกระตุ้นคอลลาเจน และมีส่วนผสมเสริมอีกหลายๆตัวที่ทำให้ผิวดูกระจ่างใสสุขภาพดีขึ้น ที่สำคัญคือ ข้างกล่องเค้าบอกความเข้มข้นส่วนผสมหลักด้วย เราจะได้มั่นใจว่าได้ส่วนผสมที่เข้มข้นพอจริงๆ

เซรัมตัวนี้เหมาะกับคนที่กำลังหาสกินแคร์ที่ช่วยรักษาพวกรอยสิว  หรือคนที่เริ่มมีอายุเพราะวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้หน้ากลับมาเต่งตึง  หรือแม้แต่จะเป็นน้องๆวัยรุ่นก็เหมาะที่จะใช้ตัวนี้ได้เลยเพราะมีพวกสารantioxidant ให้มาหลายตัวช่วยชะลอความแก่ของผิว เรียกได้ว่ากันไว้ดีกว่าแก้เนอะ
หากสรุปง่ายๆก็เหมือนในด้านการแก้ไข Brightage C  จะช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน นุ่มฟูขึ้น พร้อมกับลดเม็ดสี ทำให้จุดด่างดำจางลง ผิวสว่างขึ้นไปพร้อมๆกัน พอความเรียบเนียนมาเจอกับผิวที่สว่างขึ้น หน้าก็จะดูกระจ่างใสๆ ดูเนียนๆใสๆ เต่งตึงขึ้นขึ้น สำหรับคนที่มีริ้วรอยแล้วเนื่องจาก vitaminC และ peptide ทำงานกระตุ้นคอลลาเจน ริ้วรอยก็จะจางลง ผิวอ่อนเยาว์ขึ้นนั่นเองค่ะ
แต่สำหรับผิวที่ยังไม่มีปัญหาการใช้ BrightageC เหมือนการลดความเสียหายของผิวที่เกิดขึ้นทุกวันสะสม ทำให้ผิวเสีย ตัวนี้จะช่วยให้ผิวแก่ช้ากว่าคนทั่วไปเพราะด้วยความเป็น antioxidant มันจะลดความเสียหายจากแสงแดดค่ะ นอกจากนั้นผลที่ได้คือเรื่องของความเรียบเนียน ความฟูของผิว เพราะถึงแม้ไม่มีริ้วรอย แต่ถ้าคอลลาเจนเพิ่มขึ้นก็จะได้ในผลลัพธ์ตรงนี้ รวมถึงความขาวกระจ่างใสของผิวมากยิ่งขึ้นค่ะ
*ทั้งนี้ทั้งนั้นผลลัพธ์ที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลนะคะ สำหรับเราผิวแพ้ง่ายใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ผิวแพ้ง่ายจะไม่แพ้น้า ยังไงก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหนลองศึกษาให้ดี และอย่าลืมเทสก่อนทุกครั้งที่จะเริ่มใช้สกินแคร์ตัวใหม่ๆนะคะ*

สำหรับกระทู้นี้อบอุ่นก็ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าสวัสดีค่ะ








REVIEW OLOGY BHA SERUM สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับผิวเป็นสิว

สวัสดีค่าทุกคน สำหรับกระทู้นี้เราก็จะมารีวิวผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าตัวใหม่ที่ตอนนี้เรากำลังได้ลองใช้อยู่และรู้สึกว่ามันโอเคเลยนั่นก็คือตัวนี้เลยค่ะ

OLOGY SKINCARE 2% BHA ANTI ACNE PORE SKIN SERUM 30ml.
ตัวนี้เป็นเวชสำอางรักษาสิว ฝ้ากระ จุดด่างดำ เหมาะสำหรับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ คิดค้นโดยทีมนักวิจัยทางด้านผิวหนัง โรงงานที่ผลิตได้มาตรฐาน GMP และผ่านการรับรองจากอ.ย. (FDA)เรียบร้อยแล้วค่ะ

คุณสมบัติเด่นของเค้าเลย ก็จะช่วยละลายสิวอุดตัน ลดการทำงานของต่อมไขมัน ลดการอักเสบของสิว ควบคุมความมัน ฆ่าเชื้อสิว P.acne ลดการเกิดใหม่ของสิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิว กระชับรูขุมขน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และช่วยให้ผิวดูนุ่มขึ้นค่ะ



ผลิตภัณฑ์ถูกบรรจุมาในขวดแก้วและมีตัว Dropper มาให้ค่ะ

เซรั่มเป็นน้ำสีใสค่อนข้างเหลวมีกลิ่นอ่อนๆคล้ายๆกลิ่นของ tea tree oil หอมสดชื่นดี
เนื้อบางเบาเกลี่ยง่ายไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน เมื่อทาลงไปแล้วอาจจะรู้สึกหนึบๆที่ผิวอยู่เล็กน้อยแต่สักพักเนื้อเซรั่มก็จะซึมเข้าผิวค่ะ

ส่วนประกอบ
Potassium azeloyl diglycinate 4% หรือที่หลายๆคนรู้จักในชื่อสกินโนเรนค่ะ ตัวนี้จะช่วยละลายสิวอุดตัน ฆ่าเชื้อสิว P.acne ลดรอยดำ ควบคุมความมัน
Niacinamide (vit B3) 5% มีงานวิจัยรายงานว่าถ้าใช้วิตามิน B3ความเข้มข้น 4% ขึ้นไป จะสามารถออกฤทธิ์เป็นยารักษาสิวได้ เทียบเท่ากับ Clindamycin2% และนอกจากนี้ยังช่วยลดรอยดำได้ด้วยค่ะ
Salicylic acid (BHA) 2% ช่วยผลัดเซลผิวละลายไขมันในรูขุมขนที่อุดตัน ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
Camellia sinesis extract 2% (สารสกัดชาเขียว) ช่วยลดสิวโดยรวมได้ประมาณ 60%
Dipotassium glycyrrhizate (รากชะเอม) ช่วยต้านการอักเสบได้ดีและเป็นสาร whitening
Tea tree oil ต้านการอักเสบของสิว ฆ่าเชื้อสิว ลดเชื้อแบคทีเรีย
Witch hazel ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ กระตุ้นการสร้าง collagen และ elastin กระชับรูขุมขนทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นค่ะ
Chamomile (คาโมมายด์) ลดการระคายเคือง การแพ้และมีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรีย
Centella asiatica (ใบบัวบก) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจนป้องกันการเกิดแผลเป็นลดการอักเสบ



ที่สำคัญเลยเค้าไม่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ไม่มีซิลิโคน ไม่มี Alcohal ไม่มีสารกันเสีย ไม่แต่งสีและกลิ่นด้วยค่ะ   
อ.ย.เลขที่จดแจ้ง 10-159-494-32


วิธีใช้ ทาเซรั่มตัวนี้ทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำเช้าเย็นทุกวันได้เลยค่ะและสามารถใช้ร่วมกับ benzac หรือ clinda M หรือครีมบำรุงอื่นๆก็ได้เช่นกันค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้ สำหรับสกินแคร์ตัวนี้เราค่อนข้างชอบเลย เพราะนอกจากจะช่วยดูแลเรื่องสิวด้วยแล้ว ยังช่วยให้หน้าดูนุ่มๆใสๆขึ้นด้วยค่ะ ตัวนี้เราได้มาเกือบสองสัปดาห์และคาดว่าถ้าใช้ไปเรื่อยๆน่าจะเห็นผลลัพธ์ในด้านอื่นๆชัดเจนขึ้นอีกค่ะ ^^

สำหรับวันนี้เราก็ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้วขอบคุณที่เข้ามารับชมกัน พบกันใหม่กระทู้หน้าสวัสดีค่า










วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

**REVIEW** หน้าใส สิวหาย ด้วยสิ่งเหล่านี้


สวัสดีค่าทุกคน ขอแนะนำตัวก่อนละกันเนอะ จขกท.ชื่อ อบอุ่น นะคะ นี่ก็เป็นกระทู้ที่ 2 ของเราแล้ว หลังจากที่ได้รีวิว พัฒนาการของตัวเองตั้งแต่เด็กยันโตไป ก็มีเพื่อนๆหลังไมค์มาเยอะมากกสอบถามเรื่องสวยๆงามๆทั้งหลาย แต่ที่เยอะที่สุดคงหนีไม่พ้นวิธีรักษาสิวนะ  วันนี้เราเลยจะมาแชร์ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รวมถึงวิธีการ ดูแลตัวเองให้ดูกันค่ะ

สาเหตุการเกิดสิวของเรามาจากหลายอย่างแต่ที่สังเกตได้ชัดเลยน่าจะมาจากพวกรองพื้นที่มีเนื้อหาๆหนักๆและการล้างหน้าที่ไม่ถูกวิธี หน้าไม่สะอาดพอสิวก็เลยเห่อค่ะ

บอกก่อนน้าเค้าไม่ใช่กูรูหรือเอ๊กเปิตด้านผิวพรรณอะไรเป็นแค่

คนที่เคยเป็นสิวหนักๆแล้วลองผิดลองถูกด้วยตัวเองมา ใช้มาก็

หลายอย่าง กระทู้นี้คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง และสภาพผิวเราคือ

ผสมและค่อนข้างแพ้ง่ายนะคะ จะมันเฉพาะทีโซน แต่รอบๆจมูก

จะแห้งลอกบ้าง อ่ะพร้อมแล้วก็มาดูกันเลยย

 (เวอชันคลิปก็มา เพิ่งทำคลิปแรกเลย ติชมกันได้นิฮ้า^^”)

เริ่มกันที่การล้างหน้าเลย เราชอบใช้แต่แบบน้ำนะเพราะเคยใช้แบบ

อื่นแล้วสิวอักเสบขึ้น


Bifesta cleansing lotion sebum ราคา 318 บาท

ใช้ตัวนี้มานานมากตั้งแต่เริ่มเป็นสิว เริ่มแต่งหน้า  จนเค้าปรับสูตรเป็นแบบใหม่  ราคาถูก  สูตรนี้เหมาะสำหรับคนเป็นสิวผิวมัน เราจะกดใส่สำลีจนชุ่มเช็ดเบาๆที่หน้าเปลี่ยนแผ่นไปเรื่อยๆจนไม่มีสีติดออกมา ประมาณ 4 แผ่นก็สะอาดแล้ว ช่วยลดสิวอุดตันดีมาก  (ซื้อที่ ธนวัฒน์ตรงวังหลังจะถูกมาก มีแถมถุงเติมด้วย ฮิฮิ)




Bioderma  ราคา 730 บาท



คลีนซิ่งแบบน้ำที่เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย เราใช้แล้วรู้สึกอ่อนโยนมากๆเข้าตาแล้วไม่แสบ ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดี สบายผิวกว่า bifesta นิดนึง ขวดใหญ่ใช้ได้นาน รักเลยย  (รู้สึกแอบแพง แต่เทียบกับผลลัพธ์และปริมาณก็ถือว่าคุ้ม555)




Purevivi cleansing lotion  ราคา 380 บาท


ตัวนี้เห็นหลายคนบอกว่าคล้าย bioderma ในราคาถูกกว่า พอได้ลองก็ชอบนะคะแต่คิดว่ายังไงbioderma ก็สบายผิวมากกว่า ทำความสะอาดเมคอัพได้ดีเช่นกัน ใช้สลับๆกันไปทั้ง 3 ตัวแล้วแต่วันและโอกาส
                หลังจากที่เช็ดหน้าจนสะอาดแล้วเราจะล้างหน้าเปล่า 1 รอบ ใช้ทิชชูกล่องซับเบาๆแล้วลงต่อด้วยตัวนี้เลย   

         
Benzac 2.5 % 100-200 บาท

หลังจากเช็ดเครื่องสำอางเสร็จเราจะทาบางๆเฉพาะตรงบริเวณที่เป็นสิว ทั้งอักเสบและอุดตันทิ้งไว้ 10-15 นาที ตัวนี้สำหรับเราสิวอุดตันมันจะหลุดง่ายขึ้นส่วนสิวอักเสบที่ปวดๆจะสุกเร็วขึ้นใช้ไปเรื่อยๆหัวขึ้นมาแล้วก็แห้งลอกไปเอง แต่ตัวนี้ข้อเสียคือถ้าเผลอทิ้งไว้นานเกินไปอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือแดงได้ค่ะ
ต่อไปล้างหน้าเราใช้ 2 ตัวนี้เลย



Acne aid สีแดง 145 บาท


ล้างหน้า คนเป็นสิวคงไม่มีใครไม่รู้จักตัวนี้ใช้มั้ยคะ55 สบู่เหลวล้างหน้าสีขาวขุ่นที่ใช้แล้วสิวลด ผิวสะอาดหน้าไม่แห้งตึง ใช้จนเลิกนับขวดไปแล้ว ดีมากกก กลายเป็นยาสามัญประจำตัวขาดไม่ได้เลย ใช้ทั้งเช้าเย็น ถ้าไปซื้อร้านขายยาแถวศิริราชจะมีแถมกันแดด spectraban สีส้มให้ด้วย เอ้า เหมา!!



หมวดบำรุง

Biotherm life plankton  2,130 บาท ( 200 ml ) 


ทนกระแสไม่ไหวขอลองหน่อย  ตอนแรกที่ใช้แอบผิดหวัง ทำไมรู้สึกแปลกๆเหมือนหน้าแดงมีผดขึ้นนิดนึง แต่ก็ทนใช้ไปก่อน   เอาน่าซื้อมาแพงขอลองอีกอาทิตย์นึงละกัน55 ปรากฏว่าใช้ไปใช้มาไม่ได้สังเกตตัวเองเท่าไหร่ อยู่ดีๆเพื่อนทัก เฮ่ย ไปทำไรมา ไมสิวหายหน้าดีขึ้น?!”   เราก็แบบเหยยตอนนี้ชั้นใช้แต่แพลงตอนอย่างเดียวเองแกร๊ หลังจากนั้นหมดก็ต้องซื้อใช้ซ้ำๆจนตอนนี้ปีกว่าละ เค้าช่วยให้หน้าเราแข็งแรงขึ้นแล้วก็ลดพวกการอักเสบของสิว ช่วยให้หน้าชุ่มชื้นอิ่มน้ำดีแอบหนึบหน้าบ้าง  เรื่องกลิ่นเราเฉยๆนะก็หอมไปอีกแบบฮ่าๆ 



แต้มสิว

ครีมแต้มสิวยันฮี

ตัวนี้ใช้มานานมากก เพราะถูกหาซื้อง่าย มีติดบ้านตลอด55 คือเป็นเนื้อครีมสีขาวขุ่นกลิ่นตุ่ยๆนิดนึง เราจะใช้แต้มหนาๆเลยที่สิวอักเสบเฉพาะก่อนนอนเพราะว่าจะทิ้งคราบขาวไว้นิดนึง ตื่นมาสิวที่เคยเจ็บๆใต้ผิวก็เริ่มหายเจ็บแล้วค่ะ


ลดรอยดำรอยแดง

Burnova gel 60 บาท

เจลว่านหางจระเข้อ่อนโยน สีใสกลิ่นหอมอ่อนๆ ราคาถูกมากกใช้ลดรอยแดงที่เพิ่งเกิดใหม่ได้ดีมากๆ ให้ความชุ่มชื้นแต่งหน้าง่ายขึ้น บางวันเราเจอแดดหรืออากาศร้อนๆเอาแช่ตู้เย็นแล้วทาหนาๆนะ สดชื่น ฟินเว่อ

Mederma 450 บาท

ตัวนี้ช่วยลดรอยดำจากสิวได้ดีมากๆ เนื้อเจล ซึมลงผิวง่าย ใช้ไปเกือบเดือนรอยดำก็จางลงมากแล้ว บางจุดที่เพิ่งเป็นใหม่ๆก็หายไปเลย ส่วนเรื่องหลุมเราว่าช่วยได้นิดหน่อยเฉพาะหลุมใหม่ๆที่ไม่ลึกมากนะคะ ใครมีหลุมลึกยังไงก็ต้องพึ่งเลเซอร์เนอะ แต่ข้อเสียของเค้าคือมีแอลกอฮอ ถ้าใครแพ้อาจควรเลี่ยงตัวนี้นะคะ เราทาไปมีหน้าแห้งบ้างแต่แก้โดยโบกเจลว่านหางจรเข้หนาๆแทน

Hiruscar post acne 200-300 บาท

เจลสีเหลืองอ่อนใส เนื้อเข้มข้น ต้องนวดนานหน่อยกว่าจะซึมลงผิว ช่วยลดรอยดำได้ดี หน้าดูเนียนๆใสๆขึ้น  แต่อาจใช้เวลานานหน่อย เกือบ 2-3 หลอดแหนะ เราใช้เฉพาะตอนก่อนนอนเพราะถ้าลงตอนเช้ารู้สึกหนักหน้าไปหน่อยค่ะ

Mask leader สีม่วง ซื้อช่วง 69 บาท 1แถม1จะคุ้มมากก

เป็นมาสค์ที่มีส่วนผสมของเมือกหอยทาก ช่วยลดริ้วรอย รอยดำจากสิว ผิวอ่อนแอแห้งกร้านก็ดูดีขึ้น สำหรับเราถ้าช่วงไหนอยากหายไวๆก็มาร์คก่อนนอนติดกันไปเลยทุกวัน หน้าจะดู ใสขึ้นเร็ว รอยดำจางลงจริง หน้าดูอิ่มดูเด้งๆ แต่ด้วยน้ำมาร์คเค้าที่เข้มข้นมากๆบางทีก็มีหนึบๆหน้าบ้าง แก้โดยเอาหน้าไปผึ่งแอร์ ฮ่า เย็นสบาย 55


มาร์ค สครับ
BK mask  389 บาท

มาร์คสีเขียวคล้ายๆมิ้นจูลิป แต่ตัวนี้บีบง่าย เกลี่ยง่ายกว่าเยอะ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เราชอบตรงที่ช่วยลดความมัน สิวอุดตันแห้งหลุดง่าย ถ้ามีสิวอักเสบจะแต้มไว้ทั้งคืนเลย ตื่นมาจะไม่ค่อยเจ็บแล้ว หน้าดูใสขึ้น  รักก



Spectraban spf30/spf50

กันแดดหน้าเคยใช้อยุ่ยี่ห้อเดียว สีฟ้าใช้ทุกวันไม่อุดตันสิวไม่ขึ้น กันแดดดี ล้างออกง่าย สีส้มใช้เฉพาะวันที่ต้องเจอแดดแรงๆ เนื้อครีมก็จะเหนียวกว่าสีฟ้านิดหน่อย ได้ลุคดิวอี้ๆบางวัน


ต่อไปแป้งฝุ่นที่ใช้ช่วงเป็นสิว

แป้งเด็กไรซ์แคร์ reis care baby powder

เป็นแป้งฝุ่นที่ทำมาจากข้าวเจ้าเนื้อสีขาวอาจจะไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่แต่ควบคุมความมันได้ดีมากกกทาทั้งหน้าจะแห้งเกินเราใช้ปัดเบาๆช่วงทีโซนก็เอาอยู่ทั้งวันแล้วค่ะเริ่ดด


Tanaka de leaf

แป้งทานาคาสีเหลืองนวลราคาไม่แพงเนื้อค่อนข้างหนัก  เราใช้ปัดทั่วหน้าให้ผ่องๆต่อจากไร๊แคร์ ใช้แล้วหน้าเนียนเรียบดี พวกสิวผดก็หาย แต่เสียตรงที่ใส่น้ำหอมมาอันดับสองเลย คนแพ้น้ำหอมต้องระวังน้า
ก็จบไปแล้วนะคะสำหรับพวกของที่เราใช้ ต่อไปจะเป็นวิธีการดูแลตัวเองกันบ้าง
       ไม่แคะแกะเกาสิวที่หน้าเลย
       ไม่แต่งหน้าอันนี้คือหยุดพวกไพรเมอร์รองพื้นคอนซีลเลอร์ก่อนค่ะ ทากันแดดแล้วปัดแป้งฝุ่นบางๆพอ
      ไม่ใส่เหนียวๆที่ผม   พวกมูส ออย เซรั่มบำรุง เผื่อเวลาผมปลิวมาโดนหน้าแล้วจะสิวขึ้นได้ค่ะ
       กินน้ำปล่าวเยอะๆ ค่อยๆจิบทั้งวันช่วยให้หน้าใสขึ้น
       ออกกำลังกายให้เหงื่อออก อย่างน้อยสัปดาห์ละ3ครั้งนอกจากช่วยให้สิวหายยังหุ่นดีหน้าเด้งด้วยนะเออ
       ซักปลอกหมอนไม่ใช้ปรับผ้านุ่ม เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มมีน้ำหอมหรือสารที่ก่อให้เกิดสิวได้ค่ะ
      ใช้แชมพูเด็ก เพราะไม่มีซิลิโคนที่ก่อให้เกิดสิวและงดครีมนวดครีมหมักก่อนค่ะ
     ซักแปรงและพัฟแต่งหน้าทุกสามวันนานสุดทุกสัปดาห์ ใช้น้ำยาไดโซะนี่แหละเริ่ดสุดด
      ไม่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้า ใช้เป็นกระดาษทิชชูแบบแผ่นๆแทนค่ะจะได้ไม่เป็นที่หมักหมมของแบคทีเรีย



โอเคและนี่ก็เป็นทั้งหมดทั้งมวลที่เราใช้รักษาสิวด้วยตัวเองมา สภาพผิวตอนนี้ก็ยังเหลือรอยอยู่บ้าง พวกสิวอักเสบก็มีบ้างนิดๆหน่อยๆช่วงมีรอบเดือน  แต่โดยรวมก็ถือว่าดีขึ้นมาก ถ้าเพื่อนๆคนไหนมีคำถามอะไรก็คอมเม้นถามกันได้เลย หรือพูดคุยกันต่อได้ที่เพจเราได้นะคะ (เพิ่งเริ่มทำยังงงๆอยู่เลย55)


สำหรับวันนี้เราก็ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่บทความหน้า เดี๋ยวจะมารีวิวเรื่องผิวๆ สวัสดีค่า